วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553

เกี่ยวกับกาลเวลา (Time)

เมื่อต้องการทราบเวลา เราอาจสอบถามโดยการใช้ประโยค ดังต่อไปนี้

1. What time is it? (ว็อท ไทม อีส อิท)

เวลาเท่าไรครับ

2. What time do you have?

(ว็อท ไทม ดู ยู แฮ็ฟ)

เวลาเท่าไรครับ

3. Do you have the time?

(ดู ยู แฮ็ฟ เธอะ ไทม)

คุณทราบเวลาไหมครับ

4. Do you have a watch?

(ดู ยู แฮ็ฟ อะ ว็อทช)

คุณมีนาฬิกาหรือเปล่าครับ

5. Please tell me the time.

(พลีส เท็ล มี เธอะ ไทม)

โปรดบอกเวลาผมหน่อยครับ

6. What time is it now?

(ว็อท ไทม อีส อิท นาว)

ขณะนี้เวลาเท่าไรครับ

7. What time does your watch say?

(ว็อท ไทม ด๊าส ยัวร์ ว็อทช เซย์)

นาฬิกาขอบคุณเวลาเท่าไหร่ครับ

8. Have you the right time?

(แฮฟ ยู เธอะ ไร้ท ไทม)

นาฬิกาของคุณเดินตรงหรือเปล่าครับ

9. Is your watch right?

(อีส ยัวร์ ว็อทช ไร้ท)

นาฬิกาของคุณเดินตรงไหมครับ

10. Can you tell me the time?

(แคน ยู เท็ล มี เธอะ ไทม)

ช่วยบอกเวลาผมหน่อยได้ไหมครับ

การบอกเวลา

1. เวลา 10.00 น. (ไม่เศษนาที)

อ่านว่า

(1) It’s ten o’clock.

(อิส เท็น โอ คล็อค)

หรือ (2) It’s ten o’clock sharp.

(อิส เท็น โอ คล็อ ชาร์พ)

หรือ (3) It’s exactly ten.

(อิส อิกแซ็คทลี่ เท็น)

2. เวลา 10.10 น. (มีเศษนาที)

อ่านว่า

(1) It’s ten ten. (อิทส เท็น เท็น)

หรือ (2) It’s ten minutes after ten.

(อิทส เท็น มินิทส อ๊าฟเตอร์ เท็น)

หรือ (3) It’s ten minutes past ten.

(อิทส เท็น มินิทส พาสท เท็น)

3. เวลา 10.35 น. (มีเศษนาทีเกินครึ่งแล้ว)

อ่านว่า

(1) It’s ten thirty five. (อิทส เท็น เธอร์ตี้ ไฟว)

หรือ (2) It’s twenty-five minutes to eleven.

(อิทส ทเว็นตี้-ไฟว มนิทส ทู อิเล็ฟวึน)

คำว่า “โมง” หรือ “นาฬิกา (น.)” ตรงกับภาษาอังกฤษว่า “o’clock” ซึ่งจะใช้ได้เฉพาะเวลาจาก 1 ถึง 12 โมง แต่ต้องไม่มีเศษนาที เช่น 10.00 น. = It’s ten o’clock.

นอกจากนี้ยังมีคำที่ใช้เรียกช่วง 15 นาทีว่า quarter (ควอเต้อร์) และช่วง 30 นาที ว่า half (ฮ้าฟ) ดูตัวอย่าง

1. ช่วง 15 นาที เช่น เวลา 8.15 นาฬิกา อ่านว่า

It’s eight fifteen. (อทส เอท ฟิฟทีน)

หรือ It’s a quarter past eight.

(อิทส อะ ควอเต้อร์ พาสท เอท)

2. ช่วงที่เป็นครึ่ง หรือ 30 นาที่ เช่น เวลา 8.30 น. อ่านว่า

1. It’s eight thirty. (อิทส เอท เธอร์ตี้)

หรือ 2. It’s half past eight.

(อิทส ฮ้าฟ พาสท เอ้ท)

3. ถ้าเป็นเวลาที่เลยครึ่งมาแล้ว คือเกิน half จะต้องใช้ to (ถึง) เสมอ เช่นเวลา 8.45 น. อ่านว่า

(1) It’s a quarter to nine.

(อิทส อะ คว้อเตอร์ ทู ไนน)

หรือ (2) It’s eight forty-five. (อิทส เอท ฟอร์ตี้-ไฟว)

หรือ (3) It’s fifteen minutes to nine.

(อิทส ฟิฟทีน มินิทส ทู ไนน)

การใช้ A.M. และ P.M.

a. m. หรือ A.M. = ก่อนเที่ยง ย่อมาจากคำว่า “ante meridiem”

p. m. หรือ P.M. = หลังเที่ยง ย่อมาจากคำว่า “post meridiem”

เหตุที่ต้องใช้ a.m. และ p.m. ก็เพราะเวลาในภาษาอังกฤษนั้นบางคร้งก็ไม่ทราบว่าเช้าหรือบ่าย ไม่เหมือนภาษาไทย ที่เรียกว่า 1 ทุ่ม 2 ทุ่ม หรือบ่าย 2 หรือ ไม่ก็ตี 2 ตี 3 เป็นต้น นอกเสียจากว่าในประโยคนั้นๆ จะระบุว่า in the morning, in the afternoon, in the evening หรือ at night เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดล้วนบ่งบอกช่วงเวลาของวันอยู่แล้ว

ดูตัวอย่างประกอบ

1. I’ll meet you there at 2.30 pm.

(ไอล มีท ยู แธร์ แอท ทู เธอร์ตี้ พี เอ็ม)

ผมจะพบคุณที่นั่นเวลาบ่าย 2 โมง 30 นาที

หรือไม่ต้องใช้ p.m.

2. I’ll meet you there in the afternoon at 2.30.

(ไอล มีท ยู แธร์ อิน ธิ อ๊าฟเตอร์นูน แอท ทู เธอร์ตี้)

(แปลเหมือนกัน)

ทบทวนเรื่องเวลาพร้อมภาพประกอบ

1. 9.00 น.

It’s nine o’clock. (อิทส ไนน โอ คล็อค)

2. 9.05 น.

It’s nine five. (อิทส ไนน ไฟว)

หรือ It’s five minutes after nine.

(อิทส ไฟว มินิทส อ๊าฟเตอร์ ไนน)

3. 9.10 น.

It’s nine ten. (อิทส ไนน เท็น)

หรือ It’s ten minutes after nine.

(อิทส เท็น มินิทส อ๊าฟเตอร์ ไนน)

4. 9.15 น.

It’s nine fifteen. (อิทส ไนน ฟิฟทีน)

หรือ It’s a quarter after nine

(อิทส อะ คว้อเตอร์ อ๊าฟเตอร์ ไนน)

5. 9.20 น.

It’s nine twenty. (อิทส ไนน ทเว็นตี้)

หรือ It’s twenty minutes after nine.

(อิทส ทเว็นตี้ มินิทส อ๊าฟเตอร์ ไนน)

6. 9.25 น.

It’s nine twenty-five. (อิทส ไนน ทเว็นตี้-ไฟว)

หรือ It’s twenty-five minutes after nine.

(อิทส ทเว็นตี้-ไฟว มินิทส อ๊าฟเตอร์ ไนน)

7. 9.30 น.

It’s nine thirty. (อิทส ไนน เธอร์ตี้)

หรือ It’s half past nine

(อิทส ฮ๊าฟ พาสท ไนน)

8. 9.35 น.

It’s nine thirty-five. (อิทส ไนน เธอร์ตี้-ไฟว)

หรือ It’s twenty-five minutes to ten.

(อิทส ทเว็นตี้-ไฟว มินิทส ทู เท็น)

9. 9.40 น.

It’s nine forty. (อิทส ไนน ฟอร์ตี้)

หรือ It’s twenty- minutes to ten.

(อิทส ทเว็นตี้ มินิทส ทู เท็น)

10. 9.45 น.

It’s nine forty-five. (อิทส ไนน ฟอร์ตี้-ไฟว)

หรือ It’s a quarter to ten.

(อิทส อะ คว้อเตอร์ ทู เท็น)

11. 9.55 น.

It’s nine fifty-five. (อิทส ไนน ฟิฟตี้-ไฟว)

หรือ It’s five minutes to ten.

(อิทส ไฟว มินิทส ทู เท็น)

12. 10.00 น.

It’s ten o’clock. (อิทส เท็น โอ คล็อค)

It’s ten o’clock sharp.

(อิทส เท็น โอ คล็อค ชาร์พ)

ประโยคสำคัญเกี่ยวกับเวลา

(1) เที่ยงตรง

It’s noon. (อิทส นูน)

(2) ใกล้ถึง 9.00 น. แล้ว

It’s close to nine o’clock.

(อิทส โคลส ทู ไนน โอ คล็อค)

(3) นาฬิกาของผมช้า

My watch is slow.

(มาย ว็อทช อีส สโลว)

(4) นาฬิกาของผมเร็ว

My watch is fast.

(มาย ว็อทช อีส ฟ้าสท)

(5) นาฬิกาของผมหยุดเสียแล้ว

My watch has stopped.

(มาย ว็อทช แฮ็ส สต็อพ)

(6) คุณจะสละเวลาสัก 5 นาทีได้ไหม

Can you spare five minutes?

(แคน ยู สแปร์ ไฟว มินิทส)

บทสนทนาประกอบบทนี้

A : Excuse me. What time is it now?

B : It’s just ten o’clock.

A : Isn’t your watch a little too fast?

B : I don’t think so, because I’ve just set it this morning.

A : Is that so? Thank you very much.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น