วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

สรรพนามที่อ้างถึงนามเอกพจน์หรือพหูพจน์ข้างหน้า

สรรพนามที่อ้างถึงนามเอกพจน์หรือพหูพจน์ข้างหน้า จะต้องคล้อยตามนามตัวที่อยู่ใกล้กับสรรพนาม
ปัญหาเช่นนี้ จะเกิดขึ้นต่อเมื่อนามที่นำหน้าตัวหนึ่งเป็นเอกพจน์ และอีกตัวหนึ่งเป็นพหูพจน์ เมื่อผู้เขียนจะใช้สรรพนามก็เลยงง และไม่ทราบว่าจะใช้ตัดใดถูก ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงเขียนกฎไว้ให้เป็นแนวทาง เพื่อจะได้นำไปใช้ได้ถูกต้อง และเขียนภาษาอังกฤษได้ดี มิฉะนั้นแล้วจะทำให้เสียคะแนนไปเปล่า ๆ
ผิด : Either Mani or her friends may miss her bus.
ถูก : Either Mani or her friends may mis their bus.
ไม่มีมณีก็เพื่อน ๆ ของเธออาจจะพลาดรถเมล์
ขอให้สังเกตุว่าที่เราใช้สรรพนาม their ก็เพราะว่า นามที่เอ่ยถึงข้างหน้าที่ใกล้ที่สุดคือ friends ซึ่งเป็นพหูพจน์ ดังนั้นเมื่อเราต้องการจะใช้สรรพนาม ก็จำเป็นอยู่เองที่จะต้องให้คล้อยตามพหูพจน์ของ friends ก็เป็น their จะเป็น her ไม่ได้

ผิด : Either John or Harry is able to break record again if they have a good day.
ถูก : Either Joho or Harry is able to break the record again if he has a good day.
ไม่จอห์นก็แฮรี่ จะสามารถทำลานสถิติอีก ถ้าหากเป็นวันที่อากาศดี

วันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ประโยคใดก็ตามที่มีทั้งส่วนของประธานที่เป็นบอกเล่าและปฏิเสธ

ประโยคใดก็ตามที่มีทั้งส่วนของประธานที่เป็นบอกเล่าและปฏิเสธ กริยาของประโยคนั้นต้องคล้อยตามส่วนของประธานที่เป็นบอกเล่า
ส่วนของประธานที่เป็นบอกเล่านั้นคืออย่างไร ที่จริงแล้วส่วนของประธานที่เป็นบอกเล่า ก็คือส่วนที่ไม่มีคำปฏิเสธ
not นำหน้า ส่วนประธานที่เป็นปฏิเสธ ก็คือ ส่วนที่มี not นำหน้า ขอให้จำไว้ว่าพจน์ (number) ของกริยาจะต้องคล้อยตามพจน์ของส่วนที่เป็นบอกเล่า ขอให้ดูตัวอย่างเพื่อความเข้าใจยิ่งขึ้น
ผิด : I, not he, is the owner of this store.
ถูก : I, not he, am the owner of this store.
ผม ไม่ใช่เขา เป็นเจ้าของร้านนี้
จะเห็นได้ว่า ประธานที่แท้จริงของประโยคนี้คือ I ไม่ใช่ he ดังนั้นกริยาจึงจำเป็นต้องคล้อยตามประธานที่แท้จริง มิใช่นามหรือสรรพนามที่อยู่ใกล้คำกริยา
ผิด : Economic, not History and Physics, are a required subject,
ถูก : Economics, not History and Physics, is a required subject.
เศรษฐศาสตร์, ไม่ใช่ประวัติศาสตร์ และฟิสิกส์ เป็นวิชาบังคับ
ตัวอย่างนี้ก็เหมือนกัน ประธานที่แท้จริงของประโยคก็คือ Economics ซึ่งเป็นนามเอกพนจ์พวกหนึ่ง ซึ่งมี s ต่อท้ายเสมอ
ผิด : The doctors, not the nurse, knows him very well.
ถูก : the doctors, not the nurse, know him very well.
บรรดาหมอ ไม่ใช่พยาบาล รู้จักเขาดี

ในที่นี้ ประธานของประโยคที่แท้จริงก็คือ the doctors ซึ่งเป็นพหูพจน์ ดังนั้น กริยาจึงต้องคล้อยตามประธานที่แท้จริงของประโยค

วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

สิ่งที่ควรรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ article

ตามปกติแล้ว นามเฉพาะ หรือวิสามายนาม ไม่มี article เพราะว่ามีความหมายเฉพาะอยู่แล้ว แต่บางครั้งก็ยากที่จะขีดเส้นแบ่งระหว่างวิสามานยนาม กับสามมานยนาม โดยปกติแล้วชื่อเมือง ชื่อถนน ไม่มี article นำหน้า เช่น London หรือ New York ทั้ง ๆ ที่มีคุณศัพท์ new นำหน้า แต่ The Hangue ดังได้กล่าวไว้แล้วมี aticle นำหน้า อย่างในอังกฤษ Gower Street, Shaftesbury Avenue ไม่มี article นำหน้า แต่ The Dover Street มี เพราะคนคิดว่าเป็นถนนที่ไปสู่ Dover เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ภาษาย่อมมีข้อยกเว้นเสมอ ขอให้สังเกตตัวอย่างต่อไปนี้
Only God knows. : พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ ในกรณีนี้เราอาจกล่าวได้ว่า God เป็นวิสามานยนาม หมายถึงพระเจ้าองค์หนึ่งองค์เดียวเท่านั้น
You are not supposed to do anything on the Lord’s Day. : คุณไม่ควรจะทำอะไรสนวันอาทิตย์  ในกรณีนี้ Lord หมายถึงพระเจ้าเหมือนกัน แต่มี article ทั้งนี้คงจะเป็นเพราะคนยังไม่แน่ใจว่า The Lord เป็นวิสามานยนามก็ได้ แต่พอมาถึงตัวอย่างต่อไปนี้
God Lord! : โอ้ พระผู้เป็นเจ้า
God Bless us! : พระผู้เป็นเจ้าโปรดประทานพรให้เราด้วย
ไม่มี
article นำหน้า ทั้งนี้เพราะเป็นคำอุทาน
ชื่อสถานที่สาธารณะ เมื่อใช้ในความหมายว่าเป็นสถาบันอันหนึ่ง ไม่ใช่เป็นตึกหลังหนึ่งจะไม่มี article เช่น
We all go to church. : เราทุกคนไปโบสถ์
ในที่นี้ โบสถ์ถือเป็นสถาบันแห่งหนึ่ง ที่ทุกคนไปฟังเทศน์ แต่
we walked to the church and took the bus there. : เราเดินไปที่โบสถ์ แล้วขึ้นรถเมล์ที่นั่น
ในกรณีนี้
church หมายถึงตึกหลังหนึ่ง สถานที่แห่งหนึ่ง และที่ตรงนั้นเราขึ้นรถเมล์
เมื่อใช้วิสามานยนามเป็นพหูพจน์ จะต้องมี the นำหน้าเสมอ เป็นต้นว่า
The Smiths left for Europe yesterday. : ครอบครัวสมิธออกไปยุโรปเมื่อวานนี้)
นอกจากนั้นแล้ว นักศึกษาอาจจะเห็นว่า เมื่อคำนามเป็น
Possessive : แสดงความเป็นเจ้าของ เวลาเขียน ถ้าเป็นพหพจน์ เราใส่ apostrophe ข้างหลัง s เช่น The boys’ house. แต่ถ้าเป็นเอกพจน์ใส่ข้างหน้า s เป็น The boy’s house. เวลาพูดแล้วออกเสียงเหมือนกัน สำหรับวิสามายนาม the เท่านั้นที่จะเป็นตัวบอกว่านามนั้นเป็นเองพจนหรือพหูพจน์
Have you heard of Miss Alexander’s arrival? : คุณได้ยินเรื่องการมาถึงของนางสาวเลกซานเดอร์(คนเดียว) ไหม?
Have you heard of the Miss Alexanders’ arrival? : คุรได้ยินเรื่องการมาถึงของนางสามอเลกซานเดอร์(หลายคน)ไหม?
การที่มี the นำหน้าชื่อประเทศสหรัฐอเมริกา เทือกเขาต่าง ๆ อาจจะอนุโลมให้เป็นไปตามกฎข้อนี้ก็ได้
ชื่อคน, ชื่อยศ, บรรดาศักดิ์ ของอังกฤษ ไม่มี article แต่ ตำแหน่งของประเทศอื่นมี the นำหน้า เช่น
The Archduke Francis Ferdinand was the heir to the Austro Hungarian throne. : อาร์ชดยุ๊ก ฟรานซิส เฟอร์ดินานด์ เป็นรัชทยาทแห่งบัลลังก์ออสโตร-อังกาเรียน
The Czar was killed in 1918, one year after he was dethroned. : พระเจ้าซาร์ถูกประหารเมื่อปี พ.ศ.2462 (ค.ศ.1918) หนึ่งปีหลังจากที่ถูกขับออกจากบัลลังก์
ชื่อเดือน, วัน ไม่ต้องมี article นอกเสียจากว่า เดือน วัน นั้น ๆ เป็นเดือน หรือวัน พิเศษ โดยเฉพาะ เช่น
December is a cold month in Bangkok. : ในกรุงเทพฯ ธันวาคมเป็นเดือนที่อากาศหนาว
He was married in November, 1964. : เขาแต่งงานเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2507 แต่ He was married in the November of 1964. : เขาแต่งงานเมื่อเดือนพฤศจิกายน ของปี 2507  (แบบนี้ชี้เฉพาะลงไป)

ขอให้สังเกตุประโยคต่อไปนี้
He works at might. : เขาทำงานกลางคืน : ไม่มี article แต่ He never comes in the evening. : เขาไม่เคยมาเย็น ๆ : มีarticle

วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

การใช้ there is, there are

การใช้ There is กับนามเอกพจน์ที่ตามมา และ There are กับนามพหูพจน์หรือนามเอกพจน์หลาย ๆ คำที่ตามมา
ผิด : In the corner there is a table and a lamp.
ถูก : In the corner there are a table and a lamp.
ที่มุมนั้นมีโต๊ะตัวหนึ่งและตะเกียง
ผิด : There is too many children in the school.
ถูก : There are too many children in the school.
มีเด็กนักรัยนมากมายที่โรงเรียน
ผิด : There have been an accident.
ถูก : There has been an accident.
ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น
ถ้าประโยคขึ้นต้นด้วย here หรือ there แล้วมีนามเอกพจน์ตามกริยา กริยานั้นเป็นเอกพจน์ด้วย ถ้ามีนามพหูพจน์ตามกริยา กริยานั้นต้องเป็นพหูพจน์ด้วย

ผิด : Here comes the twins.
ถูก : Here come the twins.
ฝาแฝดมาแล้ว