คำพังเพยและสุภาษิต (Sayings and Proverbs)
คำพังเพยและสุภาษิตอังกฤษ มีความสำคํญต่อการเรียนภาษาอังกฤษมาก เพราะเราสามารถหยิบยกขึ้นมากล่าวถึงได้ในบทสนทนา และยังเป็นการเพิ่มรสชาติให้กับภาษาสนทนาอีกด้วย เพราะคำพังเพยและสุภาษิตเหล่านี้เกิดขึ้นจากสมองของนักปราชญ์ และบุคคลสำคัญๆ โดยมีเนื้อความกะทัดรัดแฝงไปด้วยความหมายอันลึกซึ้งเหมาะสำหรับใช้เป็นคติเตือนใจได้เสมอ
คำพังเพยและสุภาษิตที่น่าสนใจ
1. Everybody in love in blind.
(เอ๊ฟวรี่บอดี อิน เลิฟ อีส ไบลด)
ความรักทำให้คนตาบอด
2. Women are necessary evils.
(วีเมน อาร์ เน็สซิซึรี อิวึลส)
สตรีเป็นศัตรูที่เราจำเป็นต้องมี
3. Out of sight, out of mind.
(เอ้าท ออฟ ไซ้ท เอ้าท ออฟ ไมนด)
สามวันจากนารีเป็นอื่น
4. Love can turn the cottage into a golden palace.
(เลิฟ แคน เทิน เธอะ คอทเท็จ อินทู อะ โกลเด่น พาเลส)
ความรักสามารถเปลี่ยนกระท่อมให้เป็นพระราชวังได้
5. It is better to be alone than in bad company.
(อิท อีส เบ็ตเต่อะร์ ทู บี อะโลน แธ็น อิน แบ็ด คัมพะนิ)
อยู่เพียงลำพังดีกว่ามีเพื่อนพ้องเลวๆ
6. Two heads are better than one.
(ทู เฮ็ดส อาร์ เบ็ตเต่อร์ แธ็น วัน)
สองหัวดีกว่าหัวเดียว (สองหัวช่วยกันคิด)
7. Actions speak louder than words.
(แอ๊คชั่นส สปีค เลาเด่อร์ แธ็น เวิดส)
การกระทำย่อมดีมากกว่าคำพูด
8. Much talk little work
(มัช ทอลค ลิตเติ้ล เวิค)
พูดมากได้งานน้อย
9. The less said the better.
(เธอะ เลส เซ็ด เธอะ เบ็ตเต่อร์)
พูดน้อยไว้ดีกว่า
10. When money speaks, truth deeps silence.
(เว็น มันนี่ สปีคส ทรูธ คีพส ไซเล่นส)
เมื่อเงินพูด ความจริงก็ถูกปิดบัง
11. Dead men tell no lies.
(เด็ด เมน เท็ล โน ไลส)
คนที่ตายไปแล้วย่อมไม่โกหก
12. An angry man opens his mouth and shuts his eyes.
(แอน แอ็งกริ แมน โอเพ่นส ฮิส เม้าธ แอ้นด์ ฃัทส อิส อายส)
คนที่กำลังโกรธเปิดปากและปิดตา
13. Speech is silver, silence is gold.
(สปีช อีส ซิลเว่อร์ ไซเล็นส อีส โกลด)
การพูดเป็นเงิน เงียบเสียเป็นทอง
14. Rest is for the dead.
(เร็สท อีส ฟอร์ เธอะ เด็ด)
การพักผ่อนเป็นของคนที่ตายไปแล้ว
15. Punctuality is the soul of business.
(พังคทิวแอ็ลลิทิ อีส เธอะ โซล ออฟ บลิสซิเนส)
การตรงต่อเวลาคือหัวใจของธุรกิจ
16. No one is wise at all times.
(โน วัน อีส ไวส แอ็ท ออล ไทมส)
ไม่มีใครเฉลียวฉลาดอยู่ตลอดเวลา
17. Tomorrow never comes. (ทูม่อร์โร่ว เน็ฟเว่อร์ คัมส)
ไม่มีคำว่าพรุ่งนี้
18. The busy bee has no time for sorrow.
(เธอะ บิวซี่ บี แฮ็ส โน ไทม ฟอร์ ซอโร่ว)
ผึ้งที่หมกมุ่นย่อมไม่มีเวลาเศร้าโศก
19. Haste makes waste. (เฮ็สท เม็คส เว็ลท)
รีบร้อนทำให้เสียการ
20. An hour may destroy what an age was building.
(แอน เอาเออะ เมย์ ดิสทรอย ว็อท แอน เอ็จ วอส บิ้วดิ้ง)
เวลาเพียงชั่วโมงเดียวอาจทำลายสิ่งปลูกสร้างมาแล้วเป็นแรมปีได้
21. Reading makes a full man.
(รีดดิ่ง เม็คส อะ ฟูล แมน)
การอ่านหนังสือทำให้คนสมบูรณ์
22. A man is not born in the possession of knowledge.
(อะ แมน อีส น็อท บอร์น อิน เธอะ พ็อซเซสชั่น อ็อฟ น็อลเล็จ)
คนเราไม่ได้เกิดมาพร้อมกับความรู้
23. A man should learn to sail all winds.
(อะ แมน ชูด เลิน ทู เซล ออล วินดส)
คนเราควรเรียนรู้ถึงการเผชิญกับมรสุมทั้งมวล
24. Better know nothing than half-know many things.
(เบตเต่อร์ โนว์ น็อทธิง แธ็น ฮาฟ-โนว์ เมนี่ ธิงส)
การไม่รู้อะไรเลยดีกว่าการรู้หลายสิ่งหลายอย่างแต่เป็นเพียงครึ่งๆ กลางๆ
25. Knowledge makes one humble, ignorance makes one proud.
(น็อลเล็จ เม็คส วัน ฮัมบึล อิ๊กนอแร้นส เม็คส วัน เพราวด)
ความรู้ทำให้คนถ่อมตน ความโง่เขลาทำให้คนหยิ่งยะโส
26. Knowledge in youth is wisdom in age.
(น็อลเล็จ อิน ยูธ อีส วิลด้อม อิน เอ็จ)
การเรียรู้ในวัยหนุ่มคือความฉลาดในวัยสูงอายุ
27. A poet is born, not made.
(อะ โพเอ็ท อีส บอร์น น็อท เม็ด)
นักปราชญ์เกิดมาก็เป็นปราชญ์ ไม่ใช่ทำให้เป็นปราชญ์
28. Better an empty purse than an empty head.
(เบตเต่อร์ แอน เอ็มพตี้ เพิส แธ็น แอน เอ็มพตี้ เฮ็ด)
กระเป๋าแห้งยังดีกว่าสมองที่ว่างเปล่า
29. Reading is to the mind what exercise is to the body.
(รีดดิ่ง อีส ทู เธอะ ไมนด ว็อท เอ๊กเซอไซส อีส ทู เธอะ บอดี้)
การอ่านหนังสือจำเป็นต่อจิตใจเหมือนการออกกำลังกายจำเป็นต่อร่างกาย
30. No one id too old to learn.
(โน วัน อีส ทู โอลด ทู เลิน)
ไม่มีใครแก่เกินเรียน
31. There is no greater guide to success than the lessons taught by our own mistakes.
(แธร์ อีส โน เกร็ตเต่อร์ ไกด์ ทู ซัคเซ็ส แธ็น เธอะ เล็สซึ่น ท็อท บาย เอาเออะ โอน มิสเท็คส)
ไม่มีเครื่องนำทางไปสู่ความสำเร็จใดจะยิ่งใหญ่เท่ากับบทเรียนที่สอนโดยความผิดพลาดของเราเอง
32. It is better to die on your feet than to live on your knee.
(อิท อีส เบตเต่อร์ ทู ได ออน ยัวร์ ฟิต แธ็น ทู ลีฟว ออน ยัวร์ นี)
ตายโดยยืนอยู่บนสองขาของตนเองดีกว่าอยู่อย่างคุกเข่า
33. Art is long, life is short.
(อาร์ท อีส ลอง ไลฟ อีส ชอร์ท)
ศิลปะอยู่ได้นาน แต่ชีวิตซิสั้น
34. Eat to live, but do not live to eat.
(อีท ทู ลีฟว บัท ดู น้อท ลีฟว ทู อีท)
กินเพื่อยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน
35. While I breathe I hope.
(ไวล ไอ บรีธ ไอ โฮพ)
ในขณะที่ข้าพเจ้ายังมีลมหายใจอยู่ ข้าพเจ้าย่อมมีความหวัง
36. A life without a friend is a life without a sun.
(อะ ไลฟ วิธเอ้าท อะ เฟร็นด อีส อะ ไลฟ วิธเอ้าท อะ ซัน)
การมีชีวิตอยู่อย่างปราศจากเพื่อนฝูง ก็เหมือนกับชีวิตที่ขาดแสงตะวัน
37. The live is limited while knowledge is limitless.
(เธอะ ไลฟ อีส ลิมมิท ไวล น็อลเล็จ อิส ลิมมิทเลส)
ชีวติมีขอบเขตจำกัด แต่ความรู้กล้าวไกลไร้ขอบเขต
38. An uscless life is an early death.
(แอน ยูสเลส ไลฟ อีส แอน เออร์ลี่ เด็ธ)
ชีวิตที่ไม่ได้ทำอะไรเลย ก็เหมือนกับการตายตั้งแต่ยังเยาว์
39. We enter the world alone, we leave it alone.
(วี เอ็นเต่อร์ เธอะ เวิลด อะโลน วี ลีฟ อิท อะโลน)
เรามาเกิดในโลกแต่เพียงลำพัง เราก็จากไปแต่เพียงลำพัง
40. All death is sudden to the unprepared.
(ออล เด็ธ อีส ซัดดึ่น ทู เธอะ อันพรีแพร์ท)
ความตายทุกอย่างเป็นการกะทันหันสำหรับคนที่ยังไม่พร้อม
41. All work and no play makes Jack a dull boy.
(ออล เวิค แอ็นด์ โน เพลย์ เม็คส แจ็ค อะ ดัล บอย)
การทำแต่งานอย่างเดียวและไม่มีการเล่นเสียเลยก็ทำให้คนเราโง่ได้
42. Every man is the master of his own fortune.
(เอ็ฟวรี่ แมน อีส เธอะ ม้าสเต่อร์ ออฟ อิส โอน ฟอร์จูน)
ทุกคนย่อมเป็นนายของโชคชะตาตนเอง
43. Behind bad luck comes good luck.
(บีไฮด แบ็ด ลัด คัมส กูด ลัค)
หลังจากโชคร้ายผ่านไปโชคดีก็จะตามมา
44. Misfortune tests the sincerity of friends.
(มิสฟอร์จูน เท็สทส เธอะ ซินเซียริตี้ ออฟ เพร็นดส)
ความโชคร้ายเป็นเครื่องทดสอบความจริงใจของเพื่อนได้ดี
45. Laugh and the world laughs with you, weep and you weep alone.
(ลาฟ แอนด์ เธอะ เวิลด ลาฟส วิธ ยู วีพ แอนด์ ยู วีพ อะโลน)
เมื่อคุณหัวเราะโลกก็จะหัวเราะกับคุณ แต่เมื่อคุณต้องร้องไห้ คุณก็จะถูกทิ้งให้ร้องไห้แต่เพียงลำพัง
46. If you wish to reach at the highest, begin at the lowest.
(อิ๊ฟ ยู วิช ทู รีช แอ็ท เธอะ ไฮเอ็สท บีกิน แอ็ท เธอะ โลเอ็สท)
ถ้าท่านหวังที่จะไปให้ถึงจุดที่สูงสุดก็ต้องเริ่มจากจุดที่ต่ำสุด
47. East or west, home is best.
(อีสท ออร์ เล็สท โฮม อีส เบสท)
ไม่ว่าจะอยู่ทิศตะวันออกหรือตะวันตก บ้านนั่นแหละดีที่สุด
48. Lend your money and lose your friend.
(เล็นด ยัวร์ มันนี่ แอนด์ ลูซ ยัวร์ เฟร็นด)
เมื่อให้เพื่อนยืมเงินไป และท่านก็จะสูญเสียเพื่อนคนนั้นไป
49. Great things have small beginning.
(เกร็ท ธิงส แฮ็ฟ สมอล บีกินนิ่ง)
สิ่งที่ใหญ่โตทั้งหลาย เริ่มมาจากสิ่งเล็กๆ
50. Don’t throw away your old shoes till you have got a new one.
(โด้นท โธรว์ อะเวย์ ยัวร์ โอลด์ ชูส ทิน ยู แฮ็ฟ ก็อท อะ นิว วัน)
อย่าทิ้งรองเท้าคู่เก่าไปเสียก่อน จนกว่าจะได้คู่ใหม่มาแทน
51. A living dog is better than a dead lion.
(อะ ลีฟวิ่ง ด๊อก อีส เบตเต่อร์ แธ็น อะ เด็ด ไลออน)
สุนัขที่ยังมีชีวิตอยู่ ยังดีกว่าสิงโตที่ตายไปแล้ว
52. One has to retreat to jump better.
(วัน แฮ็ส ทู รีทรีต ทู จัมพ เบตเต่อร์)
เราต้องถอยหลังไปก่อนจึงจะกระโดดได้ดี
53. When angry, count ten before you speak, if very angry a hundred.
(เว็น แอ็งกริ เค้าท เท็น บีฟอร์ ยู สปีค อิ๊ฟ เวรี่ แอ็งกริ อะ ฮันเดร็ด)
เมื่อโกรธให้นับถึงสิบก่อนที่จะพูด แต่ถ้าโกรธมากให้นับจนถึงหนึ่งร้อย
54. Let bygones be bygones. (เล็ท ไบก็อนส บี ไบก็อนส)
เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ขอให้ผ่านเลยไป
55. No rose without a thorn. (โน โรส วิธเอ้าท อะ โธรน)
กุหลาบงามย่อมมีหนาม
56. You can’t lose what you never had.
(ยู ค้านท ลูส ว็อท ยู เน็ฟเว่อร์ แฮ็ด)
คุณจะไม่มีการสูญเสียในสิ่งที่คุณไม่เคยมี
it very much is a good time
ตอบลบ