1. Past Simple Tense (อดีตกาลธรรมดา)
Subj. + V (2)
โครงสร้าง
การใช้อดีตกาลธรรมดา
1. ใช้เพื่อแสดงถึงการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งที่ได้ทำเสร็จสิ้นสมบูรณ์ไปแล้วในอดีต และโดยปกติจะมี คำกริยาวิเศษณ์ เหล่านี้อยู่ด้วย ago, last night, week, yesterday, etc. เช่น
He came to Thailand last year.
- เขามาเมืองไทยเมื่อปีที่แล้ว
2. ใช้กับเหตุการณ์ที่ดำเนินอยู่ในช่วงเวลาหนึ่งๆ ในอดีต และอาจจะมี คำกริยาวิเศษณ์ เหล่านี้อยู่ด้วยก็ได้ always, usually, frequently etc. เช่น
Daeng always kept a light on the room.
- แดงมักจะเปิดไฟในห้องทิ้งไว้เสมอ (นิสัยในอดีต)
6. Past Continuous Tense (อดีตกาลกำลังกระทำอยู่)
Subj. + was, were + V-ing
โครงสร้าง
การใช้อดีตกาลกำลังกระทำอยู่
ใช้แสดงถึงการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นในอดีต และโดยปกติจะมีคำแสดงเวลาระบุให้เห็น เช่น
It was raining heavily that afternoon.
- ฝนกำลังตกอย่างหนักในตอนบ่ายวันนั้น (กำลังเกิดขึ้นแต่ตอนนี้เป็นอดีตไปแล้ว)
7. Past Perfect Tense (อดีตกาลสมบูรณ์)
Subj. + had + V (3)
โครงสร้าง
การใช้อดีตกาลสมบูรณ์
ใช้แสดงถึงการกระทำสองอย่างที่เกิดขึ้นในอดีตเหมือนกัน (แต่การกระทำหรือเหตุการณ์อย่างหนึ่งเกิดขึ้นก่อน การกระทำหรือเหตุการณ์อีกอย่างหนึ่ง) และให้ใช้ Past Perfect Tense กับการกระทำหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนนั้น ส่วนการกระทำหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังให้ใช้ Past Simple Tense และโดยมากก็จะใช้คู่กันแบบนี้เสมอเสียด้วย นอกจากนี้ยังนิยมใช้คำเหล่านี้เชื่อม ประโยค ทั้งสองเข้าด้วยกัน คือ when, before, after, that (ดูตัวอย่าง) เช่น
He had finished his work before I arrived.
- เขาทำงานของเขาเสร็จก่อนที่ผมจะมาถึง (งานเสร็จก่อนการมาถึง)
8. Past Perfect Continuous Tense (อดีตกาลสมบูรณ์แต่กำลังกระทำอยู่)
Subj. + had + been + V-ing
โครงสร้าง
การใช้อดีตกาลสมบูรณ์แต่กำลังกระทำอยู่
อาจกล่าวได้ว่าการใช้ Past Perfect Continuous Tense เป็นไปในทำนองเดียวกันกับการใช้ Past Perfect Tense แต่ Past Prefect Continuous Tense นี้จะเน้นหนักในเรื่องของความต่อเนื่องของเหตุการณ์หรือการกระทำเป็นสำคัญ เช่น
It had been raining the whole morning.
- ฝนได้ตกตลอดทั้งเช้า (ไม่มีการหยุดตลอดเช้านั้น)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น