วันเสาร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2553

การพบกันอีกครั้ง (Meeting again)

การพบกันอีกครั้ง (Meeting again)

ในการณีที่คนที่เรารู้จักและสนิทสนมมากๆ ต้องจากเราไปนานๆ หลายวัน เช่น ไปต่างประเทศ หรือไปทำธุระที่อื่นนานๆ เมื่อเราพบเขาอีกครั้งหนึ่งเราก็จะทักทายเขาว่า “Hello” หรือ “Good morning/afternoon/evening” แล้วแต่โอกาสและความหมาะสม แต่ประโยคที่ตามมาจะไม่ใช่ “How are you?ซึ่งแปลว่า “คุณสบายดีหรือ” อย่างที่กล่าวถึงมาแล้วในบทที่ 2 ซึ่งว่าด้วยเรื่องการทักทาย (Greeting) ในบทนี้ประโยคที่ต่อจาก “Hello” หรือ “Good morning/afternoon/evening” คือ ประโยคใดประโยคหนึ่งเหล่านี้

1. I’m glad to see you again.

(ไอม แกล็ด ทู ซี ยู อะเก็น)

ผมดีใจที่ได้พบคุณอีก

2. Glad to see you again.

(แกล็ด ทู ซี ยู อะเก็น)

ดีใจที่ไดพบคุณอีก

3. Glad to see you.

(แกล็ด ทู ซี ยู)

ดีใจที่ได้พบคุณ

4. It’s nice to see you again.

(อิทส ไนซ ทู ซี ยู อะเก็น)

ดีที่ได้พบคุณอีก

เมื่อนำมารวมเข้าด้วยกันก็จะปรากฏออกมาดังนี้

Hello, Peter. I’m glad to see you again.

เมื่อเราทักทายเขาด้วยประโยคข้างบนนั้น อีกฝ่ายหนึ่งก็จะพูดตอบออกมาว่า

1. Glad to see you too.

(แกล็ด ทู ซี ยู ทู)

ดีใจทีได้พบคุณเช่นกัน

2. Glad to see you too.

(แกล็ด ทู ซี ยู ทู)

ดีใจที่ได้พบคุณ

3. It’s nice to see you again too.

(อิทส ไนซ ทู ซี ยู อะเก็น ทู)

ดีที่ได้พบคุณอีกเช่นกัน

ประโยคอื่นๆ ก็มีอยู่บ้งาแต่ไม่ค่อยนิยมใช้ คือ

“I haven’t seen you for a long time”

(ไอ แฮ็ฟวึ่นท ซีน ยู ฟอร์ อะ ลอง ไทม)

ผมไม่ได้พบคุณเสียนาน

นอกจากนี้ ก็ยังมีสำนวนในภาษาพูด

(Colloquial expression) ซึ่งก็เป็นที่นิยมใช้อยู่บ้างเหมือนกัน คือ

Long time no see!

(ลอง ไทม โน ซี)

ไม่ได้พบกันเสียนาน

ส่วนประโยคที่นิยมใช้กันมากที่สุดก็เห็นจะได้แก่ประโยคเหล่านี้

1. I haven’t seen you in years.

(ไอ แฮ็ฟวึ่นท ซีน ยู อิน เยียส)

ผมไม่ได้พบคุณเสียนาน (เป็นปี)

2. I haven’t seen you in ages.

(ไอ แฮ็ฟวึ่นท ซีน ยู อิน เอ็จส)

ผมไม่ได้พบคุณเสียนาน

3. Where have you been keeping yourself?

(แวร์ แฮ็ฟ ยู บีน คีพพิ่ง ยัวเซ็ลฟ)

คุณหายไปไหนเสียนาน

4. I haven’t seen much of you lately.

(ไอ แฮ็ฟวึ่นท ซีน มัช ออฟ ยู เล็ทลี่)

พักนี้ผมไม่ค่อยเห็นคุณเลยครับ

*ข้อสังเกต

ประโยคว่า “How are you?กับ “How have you been?

มีความแตกต่างกันอย่างไร และมีวิธีใช้อย่างไร

คำอธิบาย

โดยปกติในการพบกันครั้งแรกเราจะทักทายกันว่า Good morning/afternoon/evening หรือ Hello! หรือ Hi! แล้วจึงพูดต่อไปว่า “How are you?ซึ่งแปลว่า “คุณสบายดีหรือ” ส่วนประโยคว่า “How have you been?ซึ่งแปลว่า “คุณสบายดีหรือ” เช่นกัน นั้นจะใช้ทักทายกับคนที่เรารู้จักและมีความคุ้นเคยแต่ไม่ได้พบกันเสียนาน เมื่อมาพบกันอีกครั้งหนึ่ง เราจึงทักทายเขา โดยมีประโยคว่า “How have you been?ประกอบอยู่ด้วย ส่วนวิธีการใช้นั้นก็คล้ายๆ กับ “How are you?นั่นเอง ช่น

ตัวอย่าง A (ทักทายหลังจากไม่พบกันเสียนาน)

A : Hello, Peter. I’m glad to see you again.

B : Hello, Vinai. Glad to see you too. How have you been?

A : Fine, thank you. And you?

B : I’m fine.

ตัวอย่าง B (การทักทายทั่วไป)

A : Good morning, Mr. Aslin.

B : Good morning, Khun Thanapol.

A : How are you this morning?

B : Fine, thanks, and you?

A : very well, thank you.

หมายเหตุ

ประโยคว่า “How have you been?บางครั้งเราใช้ประโยคว่า “How are you getting along?แทนก็ได้ ซึ่งก็แปลว่า “คุณสบายดีหรอื” ไม่ได้แปลว่า “คุณไปอยู่ที่ไหนมา” อย่างที่คนไทยส่วนใหญ่เข้าใจผิด หลังจากถามถึงทุกข์สุขกันแล้ว ก็จะถามถึงความเป็นไปของคนอื่นๆ ในครอบครัวบ้าง เช่น

1. How is everyone? (ฮาว อีส เอ๊ฟวรี่วัน)

ทุกๆ คนเป็นอย่างไรบ้าง

2. How are your parents?

(ฮาว อาร์ ยัวร์ พาเร้นทส)

บิดามารดาของคุณเป็นอย่างไรบ้าง

3. How are your children?

(ฮาว อาร์ ยัวร์ ชิลเดร่นท)

เด็กๆ ของคุณเป็นอย่างไรบ้าง

4. How is your family?

(ฮาว อีส ยัวร์ เฟมิลี่)

ครอบครัวของคุณเป็นอย่างไรบ้าง

5. How is your wife/husband?

(ฮาว อีส ยัวร์ ไวฟ/ฮัสแบ็นด์)

ภรรยา/สามีของคุณเป็นอย่างไรบ้าง

นอกจากประโยคเหล่านี้แล้วก็อาจจะแสดงความสนใจเกี่ยวกับความเป็นไปของเขาบ้างเช่น

1. What are you doing these days?

(ว็อท อาร์ ยู ดูอิ่ง ธีส เดย์ส)

ตอนนี้คุณทำอะไรบ้าง

2. Are you still working at ………?

(อาร์ ยู สทิล เวิคกิ่ง แอ็ท .........)

คุณยังคงทำงานอยู่ที่.........หรือเปล่า

3. Are you still at ………?

(อาร์ ยู สทิล แอ็ท .........)

คุณยังคงอยู่ที่.........หรือเปล่า

4. How is everything? (ฮาว อีส เอ๊ฟวรี่ธิง)

ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอย่างไรบ้าง

5. How is your business? (ฮาว อีส ยัวร์ บิสซิเนส)

ธุรกิจของคุณเป็นอย่างไรบ้าง

6. What’s new? (ว็อทส นิว)

มีอะไรใหม่ๆ ไหม

ประโยคคำตอบสำหรับคำถามข้างบนนั้น ได้แก่ประโยคเหล่านี้ประโยคใดประโยคหนึ่งแล้วแต่ความเหมาะสมเช่น

1. So-so. (โซ โซ)

ก็ยังงั้นแหละ

2. Not so bad. (น้อท โซ แบด)

ก็ไม่เลวนักหรอก

3. O.K. (โอ เค)

ก็ใช้ได้ครับ

4. Everything is fine. (เอีฟวรี่ธิง อีส ไฟน)

ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดีครับ

บทสนทนาประจำบท

A : Hello, Robert. I’m glad to see you again.

B : Hello, Jack. How have you been?

A : Fine, thanks. And you?

B : Just fine. How is your business?

A : Not so bad. I hope it’ll be better next year.

B : Oh! I’m glad to hear that.

A : Well, I’m on my way to pick up my wife at her office. Good-bye.

B : Good bye. Nice to have seen you again.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น