วันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553

การท่องเที่ยว (Tourism)

การท่องเที่ยว (Tourism)

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นับว่าทำรายได้เข้าประเทศปีละมิใช่น้อย ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก เข้ามาเที่ยวเมืองไทย แต่น่าเสีดายที่ว่านักท่องเที่ยวเหล่านั้นยังต้องเผชิญอยู่กับปัญหาด้านการติดต่อสื่อสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เดินทางออกไปนอกตัวเมือง ถ้าปราศจากมัคคุเทศก์เสียแล้วพวกเขาก็จะได้รับทราบข้อมูลที่เป็นประโยชน์น้อยมาก ดังนั้นเพื่อนเป็นการปูพื้นฐานความรู้ด้านการท่องเที่ยว ให้กับผู้ที่สนใจในด้านนี้ บทนี้จะช่วยท่านผู้อ่านได้มาก

อนึ่งการที่นำบทนี้มาไว้ท้ายเล่มก็เพราะว่าผู้ที่จะศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ จะต้องผ่านการศึกษาบทสำคัญๆ มาแล้ว เช่น การทักทาย (Greetings) และการแนะนำให้รู้จักกัน (Introductions) เป็นต้น

ท่านพูดภาษาอังกฤษได้ไหม

(Can you speak English?)


คำถามนี้จำเป็นต้องใช้บ่อยเพราะถ้าเราไม่ถามเขา เขาก็อาจจะถามเรา และอย่าลืมว่านักท่องเที่ยวทุกคนไม่ได้พูดภาษาอังกฤษได้เสมอไป บางคนก็พูดไม่ได้เลยก็มี ดังนั้นเพื่อให้แน่ใจถ้าเขาไม่ใช่เจ้าของภาษา (Non-native speaker) ก็ควรถามเขาเสียก่อนว่า

1. Do you speak English?

(ดู ยู สปีค อิงลิช)

คุณพูดภาษาอังกฤษได้ไหม

2. Do you understand English?

(ดู ยู อันเดอร์สแตนด์ อิงลิช)

คุณเข้าใจภาษาอังกฤษไหม

3. Can you speak English?

(แคน ยู สปีค อิงลิช)

คุณพูดภาษาอังกฤษได้ไหม

4. Can you understand English?

(แคน ยู อันเดอร์สแตนด์ อิงลิช)

คุณเข้าใจภาษาอังกฤษไหม

เขาก็อาจจะตอบว่า

1. Yes, a little. (เยส อะ ลิตทึ่ล)

ครับพูดได้นิดหน่อย

2. Yes, I can. (เยส ไอ แคน)

ครับผมพูดได้ครับ

3. Yes, but not very well.

(เยส บัท น้อท เวรี่ เว็ล)

ครับ แต่พูดได้ไม่ค่อยดีนัก

4. Yes, I guess so.

(เยส ไอ เกส โซ)

ครับผมคิดว่าอย่างนั้นครับ

ถ้าไม่เข้าใจและขอให้เขาพูดใหม่ ก็อาจจะพูดว่า

1. I beg your pardon?

(ไฮ เบ็ก ยัวร์ พ้าดึ่น)

ขอโทษครับกรุณาพูดใหม่ซิครับ

2. Pardon? (พ้าดึ่น)

ขอโทษครับ

3. Excuse me. What did you say?

(เอ๊กสคิ้วส มี ว็อท ดิด ยู เซย์)

ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าคุณพูดอะไรครับ

4. I’m afraid I didn’t understand what you said.

(ไฮม อะเฟร็ด ไอ ดิดดึ่นท อันเดอร์สแตนด์ ว็อท ยู เซ็ด)

ผมเกรงว่าผมจะไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณพูดครับ

5. I’m sorry but I didn’t quite understand you.

(ไอม ซ้อรี่ บัท ไอ ดิดดึ่นท ไค้วท อันเดอร์สแตนด์ ยู)

ผมเสียใจครับแต่ผมไม่ค่อยจะเข้าใจในสิ่งที่คุณพูดครับ

6. I didn’t quite catch what you said.

(ไอ ดิดดึ่นท ไคว้ท แค็ทช ว็อท ยู เซ็ด)

ผมตามไม่ค่อยทันในสิ่งที่คุณพูดครับ

7. Would you mind repeating what you said?

(วูด ยู ไมนด รีพีทติ้ง ว็อท ยู เซ็ด)

คุณจะกรุณาพูดใหม่ในสิ่งที่คุณพูดไปแล้วหน่อยได้ไหมครับ

8. What? (ว็อท)

อะไรครับ

ถ้าต้องการให้เขาพูดช้าๆ เราก็จะพูดว่า

1. Would you mind speaking more slowly?

(วูด ยู ไมนด สปีคกิ่ง มอร์ สโลวลี่)

คุณกรุณาพูดช้าๆ หน่อยได้ไหมครับ

2. Please speak slowly. (พลีส สปีค สโลวลี่)

กรุณาพูดช้าๆ หน่อยครับ

ถ้าเราอยากจะถามเขาเกี่ยวกับเรื่องการออกเสียง ความหมายของคำ หรือการสะกดคำ เราก็อาจจะถามได้ดังนี้

1. What is the pronunciation of this word?

(ว็อท อีส เธอะ โพรนันซิเอชั่น ออฟ ธิส เวิด)

คุณออกเสียงคำนี้อย่างไรครับ

2. What is the meaning of this word?

(ว็อท อีส เธอะ มีนนิ่ง ออฟ ธิส เวิด)

คำนี้มีความหมายว่าอย่างไรครับ

3. What is the spelling of this word?

(ว็อท อีส เธอะ สเป็ลลิ่ง ออฟ ธิส เวิด)

คุณสะกดคำนี้อย่างไรครับ

4. How do you pronounce this word?

(ฮาว ดู ยู โพรเนาส ธิส เวิด)

คำนี้คุณออกเสียงอย่างไรครับ

5. How do you spell this word? (ฮาว ดู ยู สเป็ล ธิส เวิด)

คุณสะกดคำนี้อย่างไรครับ

6. What does “temple” mean?

(ว็อท ด้าส “เท็มพึ้ล” มีน)

คำว่า “temple” หมายถึงอะไรครับ

7. What do you mean by temple?

(ว็อท ดู ยู มีน บาย เท็มพึ้ล)

คุณหมายถึงอะไรครับคำว่าเท็มพึ้ลครับ

8. I’m afraid I don’t know what temple mean.

(ไอม อะเฟร็ด ไอ โด้นท โนว์ ว็อท เท็มพึ้ล มีน)

ผมเกรงว่าผมจะไม่ทราบว่า เท็มพึ้ลหมายถึงอะไรครับ

9. How do you translate this word into English?

(ฮาว ดู ยู ทรานสเล็ท ธิส เวิด อินทู อิงลิช)

คุณแปลคำนี้เป็นภาษาอังกฤษว่าอย่างไรครับ

ถ้าต้องการจะบอกว่า “อ๋อ! ผมเข้าใจแล้ว” หรือ “อ๋อ ผมรู้แล้ว” เราก็จะพูดว่า

1. Oh! I see. (โอ่ ไอ ซี)

อ๋อ ผมรู้แล้วครับ (คำว่า “see” ไม่ได้แปลว่า “เห็น” ในที่นี้)

2. I see. (ไอ ซี)

ผมรู้แล้วครับ

3. I understand. (ไอ อันเดอร์สแตนด์)

ผมเข้าใจครับ

กรณีที่ต้องการจะพูดถ่อมตนว่า พูดไม่เก่งหรืออะไรทำนองนี้เป็นการออกตัว เช่น

1. I’m afraid I can’t express it in English.

(ไอม อะเฟรด ไอ ค้านท เอ็กซเพรส อิท อิน อิงลิช)

ผมเกรงว่าผมจะไม่สามารถแสดงออกเป็น ภาษาอังกฤษได้ครับ

2. I don’t think I can say it in English but I’ll try my best.

(ไอ โด้นท ธิงค ไอ แคน เซย์ อิท อิน อิงลิช บัท ไอล ทราย มาย เบสท)

ผมไม่คิดว่าผมจะพูดเป็นภาษาอังกฤษได้ แต่ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดครับ

3. Sorry, I don’t know how to say it in English.

(ซ้อรี่ ไอ โด้นท โนว์ ฮาว ทู เซย์ อิท อิน อิงลิช)

เสียใจครับ ผมไม่รู้จะพูดเป็นภาษาอังกฤษว่าอย่างไรดีครับ

สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ

(Important tourist attractions)

1. The temple of the Emerald Buddha

(เธอะ เท็มพึ้ล ออฟ ธิ เอ็มเมอะรึลด บุ๊ดด้า)

= วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)

2. The Temple of the Reclining Buddha

(เธอะ เท็มพึ้ล ออฟ เธอะ ริไคลนิ่ง บุ๊ดด้า)

= วัดพระเชตุพน (วัดโพธิ์)

3. The Temple of the Dawn

(เธอะ เท็มพึ้ล ออฟ เธอะ ดอน)

= วัดอรุณราชวราราม (วัดแจ้ง)

4. The Temple of the Great Relic

(เธอะ เท็มพึ้ล ออฟ เธอะ เกร็ท รีลิก)

= วัดมหาธาตุฯ

5. The Temple of the Golden Buddha

(เธอะ เท็มพึ้ล ออฟ เธอะ โกลดัน บุ๊ดด้า)

= วัดไตรมิตร

6. The Marble Temple. (เธอะ มาร์บึล เท็มพึ้ล)

= วัดเบญจมบพิตร

7. The Golden Mount. (เธอะ โกดลดัน เม้าท)

= ภูเขาทอง (วัดสระเกศ)

8. The Grand Palace. (เธอะ แกรนด์ พาเลส)

= พระบรมมหาราชวัง

9. The National Museum. (เธอะ เนชั่นแนล มิวเซียม)

= พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ

10. The National Theatre (เธอะ เนชั่นแนล อาร์ทส เธียร์เต่อร์)

= โรงละครแห่งชาติ

11. The National Arts Gallery

(เธอะ เนชั่นแนล อาร์ทส แก็ลละริ)

= หอศิลปแห่งชาติ

12. The City Pillar Shrine.

(เธอะ ซิตี้ ฟิลละ ไชรน)

= ศาลหลักเมือง

13. The Statue of the Goddess of the Earth

(เธอะ สแท็ททิว ออฟ เธอะ ก็อดเดส ออฟ ธิ เอิร์ธ)

= รูปปั้นพระแม่ธรณี

14. The Giant Swing. (เธอะ ไจอันท สวิง)

= เสาชิงช้า

15. The Democracy Monument. (เธอะ ดิม็อคคระซิ โมนิวเม้นท)

= อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

16. The Victory Monument. (เธอะ วิคตอรี่ โมนิวเม้นท)

= อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

17. The Volunteer Forces’ War Memorial

(เธอะ ว็อลลันเทีย ฟ็อสเสส วอ มิมอเรียล)

= อนุสาวรีย์ทหารอาสา

18. The King Rama V Equestrian Statue

(เธอะ คิง รามา ไฟว อิเควสเทรียน สแท็ททีว)

= พระบรมรูปทรงม้า รัชกาลที่ 5

19. The Royal Plaza. (เธอะ โรเย็ล พลาซ่า)

= ลานพระบรมรูปทรงม้า

20. The Shed of the Royal Barges

(เธอะ เช็ด ออฟ เธอะ โรเย็ล บาจส)

= ซุ้มเรือพระที่นั่ง

21. Jim Thompson’s House. (จิม ทอมสันส เฮ้าส)

= บ้านจิมทอมสัน

22. Vimanmek Teak Mansion. (วิมานเมฆ ทีค แมนชั่น)

= พระที่นั่งวิมานเมฆ

23. Suan Pakkard Palace. (สวน ผักกาด พาเลส)

= วังสวนผักกาด

24. Chinatown (Sampeng) (ไชน่าทาวน/สำเพ็ง)

= เยาวราช

25. Dusit Zoo. (ดุสิต ซู)

= สวนสัตว์ดุสิต (เขาดิน)

26. Snake Farm. (สเน็ค ฟาร์ม)

= สถานเสาวภา

27. Ancient City. (เอนซืนท ซิตี้)

= เมืองโบราณ

28. Crocodile Farm. (คร็อคคะไดล ฟาร์ม)

= ฟาร์มจระเข้

29. Sanam Luang (Royal Field)

(สนามหลวง/โรเย็ล ฟิลด)

= สนามหลวง

30. Floating Markets. (โฟลตติ้ง มาร์เก็ตส)

= ตลาดน้ำ

31. Weekend Market (Chatuchak Park)

(วีคเอ็น มาร์เก็ต)

= ตลาดนัดวันหยุด (สวนจตุจักร)

32. Golden Triangle. (โกลเด่น ไตรแอ็งกึล)

= สามเหลี่ยมทองคำ

33. Meditation Centre. (เมดิเทชั่น เซ็นเต่อร์)

= ศูนย์ปฏิบัติกัมมัฎฐาน

34. The Former Capital of Ayutthaya

(เธอะ ฟอร์เม่อร์ แค็พพิทัล ออฟ อยุธยา)

= กรุงเก่า (กรุงศรีอยุธยา)

35. Wat phailom/a sanctuary for the open-billed stork

(วัดไผ่ล้อม/อะ แซ็งคทิวอะริ ฟอร์ ธิ โอเพ่น-บิลท สท็อค)

= วัดไผ่ล้อม (ที่อยู่อาศัยของนกปากห่าง)

36. The Sukhothai Historical Park

(เธอะ สุโขทัย ฮิสทอริคัล พาร์ค)

= อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

37. The Royal Turf Club

(เธอะ โรแย็ล เทิฟ คลับ)

= สนามแข่งม้า

เทศกาลและคำศัพท์ที่ควรทราบ

1. Songkran Festival 4. The Poy Sang Long Festival

(สงกรานต์ เฟ็สทิวึล) (เธอะ ปอย ส่าง ลอง เฟ็สทิวึล)

= เทศกาลสงกรานต์ = เทศกาลปอยส่างลอง

2. Loy Krathong Festival 5. The Moon Festival

(ลอยกระทง เฟ็สทิวึล) (เธอะ มูน เฟ็สทิวึล)

= เทศกาลลอยกระทง = เทศกาลไหว้พระจันทร์

3. Buddhist Lent 6. Long-boat racing

(บุ๊ดดิสท เล็นท) (ลอง-โบท เรสซิ่ง)

= วันเข้าพรรษา = การแข่งขันเรือยาว

7. Rocket Festival 15. Candle Procession

(ร็อคเก็ท เฟ็สทิวึล) (แค็นดึล โพรเซ็สชั่น)

= บุญบั้งไฟ = ขบวนแห่เทียน

8. The Royal Ploughing Ceremony 16. Flower-float Procession

(เธอะ โรเย็ล เพลาอิ้ง เซริมะนิ) (เฟลาเออะ-โฟลต โพรเซ็สชั่น)

= พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ = ขบวนแห่รถพุ่มดอกไม้

9. The Elephant Round-up Festival 17. Hilltribe Crafts Foundation Shop

(ธิ เอ็ลลิฟันท ราวด-อัพ เฟ็สทิวึล) (ฮิลไทรบ คร๊าฟส เฟาเดชั่น ช็อพ)

= เทศกาลคล้องช้าง = ร้านจำหน่ายสินค้าของมูลนิธิชาวเขา

10. King’s Birthday 18. Royal Pantheon

(คิงส เบิธเดย์) (โรเย็ล แพ็นธีอัน)

= วันเฉลิมพระชนมพรรษา = ประสาทพระเทพบิดร

11. The Death Railway Bridge 19. Tourism Authority of Thailand (TAT)

(เธอะ เด็ธ เร็ลเวย์ บริดจ) (ทัวริซึ่ม ออธอริตี้ ออฟ ไทยแลนด์/ทีเอที)

= สะพานรถไฟมรณะ = องค์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

12. Wax Castle Festival 20. Sword fighting

(แว็คส คาสซึล เฟ็สทิวึล) (ซอด ไฟ้ติ้ง)

= เทศกาลแห่ประสาทผึ้ง = การต่อสู้ฟันดาบ

13. Fireworks 21. Tourist spots

(ไฟอะเวิคส) (ทัวริส สพอทส)

= ดอกไม้ไฟ = จุดท่องเที่ยว

14. Folk dance 22. Umbrella-marking

(โฟค ด้าส) (อัมเอร็ลล่า-เม็คกิ่ง)

= ระบำพื้นเมือง = การทำร่ม

23. Handicraft 32. Wood-carving

(แฮนดิคร๊าฟท) (วู้ด-คาวิ่ง)

= หัตถกรรม = การแกะสลักไม้

24. Historical place 33. Antiques

(ฮิสทอริคัล เพลส) (แอ็นทีคส)

= สถานที่ทางประวัติศาสตร์ = โบราณวัตถุ

25. Shadow-play figure 34. Jewellery

(ชาโด้ว-เพลย์ ฟิกเก่อร์) (จูเอิลรี่)

= ตัวหนังตะลุง = อัญมณี

26. Sightseeing 35. Lacquerware

(ไซ้ทซีอิ้ง) (แล็คเคอะแวร์)

= การท่องเที่ยวดูสิ่งของหรือทิวทัศน์ = เครื่องเขิน

27. Sound-and-light Presentation 36. Nielloware

(ซาวด์-แอนด์-ไล้ท พรีเซ่นเทชั่น) (นิเอลโล่แวร์)

= การแสดงเสียงและแสง = เครื่องถม

28. Ceramics (ซิแร็มมิคส) 37. Trekking (เทร็คกิ่ง)

= เครื่องเคลือบ = การเดินป่า

29. The Royal Barge procession 38. hot-spring

(เธอะ โรเย็ล บาร์จ โพรเซสชั่น) (ฮ็อท-สปริง)

= ขบวนเรือพระที่นั่ง = น้ำพุร้อน

30. Bronze ware (บร็อนซแวร์) 39. waterfall (วอเต่อร์ฟอล)

= เครื่องทองสัมฤทธิ์ = น้ำตก

31. Public park (พับลิค พาร์ค) 40. Rafting (ร๊าฟติ้ง)

= สวนสาธารณะ = การล่องแพ

41. Cruise (ครูซ) 47. Thai boxing (ไทย บ๊อกซิ่ง)

= การแล่นเรือเที่ยว = มวยไทย

42. Buddha image (บุ๊ดด้า อิมเม็จ) 48. Thai classical dance (ไทย คล้าสซิคัล ด้านซ)

= พระพุทธรูป = รำไทย

43. Wildlife sanctuary 49. pagoda

(ไวลดไล้ฟ แซ็งคทิวอะริ) (พาโกด้า)

= สถานที่อยู่ของสัตว์ป่า = เจดีย์

44. Ruin (รูอิน) 50. long-tailed boat (ลอง-เทลล โบ้ท)

= ซากปรักหักพัง = เรือหางยาว

45. overnight stay 51. Mural paintings

(โอ่เว่อร์ไน้ท สเตย์) (มิวอะรึล เพ้นทติ้งส)

= การพักค้างคืน =ภาพเขียนฝาผนัง

46. above sea level (อะบัฟว ซี เล็ฟวึล)

= สูงกว่าระดับน้ำทะเล

ประโยคที่น่าสนใจ

1. The museum opens daily except Mondays.

(เธอะ มีวเซียม โอเพ่น เดลี่ เอ๊กซเซ็พท มันเดย์ส)

พิพิธภัณฑ์เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์

2. Admission fee is 20 baht.

(เอ็ดมิชชั่น ฟี อีส ทะเว็นตี้ บาท)

ค่าผ่านประตู 20 บาท

3. Entry to the zoo is 10 baht; hours are from 8 am to 6 pm daily.

(เอ็นทริ ทู เธอะ ซู อีส เท็น บาท เอาเออะส อาร์ ฟรอม เอ็ท เอเอ็ม ทู ซิก พีเอ็ม เดลี่)

ค่าผ่านประตูเข้าสวนสัตว์ 10 บาท ชั่วโมงเปิดเข้าชม จาก 8.00 ถึง 6.00 น. ทุกวัน

4. It’s convenient to travel by boat.

(อิทส คอนวีเนียนท ทู แทร็ฟเว็ล บาย โบ้ท)

เป็นการสะดวกถ้าเดินทางโดยเรือ

5. The temple is open daily from 8.00 am to 5.00 pm ; admission to the temple is free.

(เธอะ เท็มพึ้ล อีส โอเพ่น เดลี่ ฟร์อม เอ็ท เอเอ็ม ทู ไฟว พี่เอ็ม แอ็ดมิชชั่น ทู เธอะ เท็มพึ้ล อีส ฟรี)

วัดนี้เปิดทุกวันจากเวลา 8.00 น. ถึง 5.00 น. ค่าผ่านประตูฟรี

6. Thailand means “Land of the free”.

(ไทยแลนด์ มีนส “แลนด์ ออฟ เธอะ ฟรี”)

ไทยแลนด์ หมายถึง “ดินแดนแห่งอิสระ”

7. It is a very old monastery* in the Thai kingdom.

(อิท อิส อะ เวรี่ โอลด โมนาสเตอรี่ อิน เธอะ ไทย คิงด้อม)

มันเป็นวัดที่เก่าแก่มากในราชอาณาจักรไทย

8. Bangkok is popularly known as “The City of Angels”.

(แบงคค็อค อีส พ็อพพิวลาลี่ โนนท แอส “เธอะ ซิตี้ ออฟ เอ็นจึลส”)

กรุงเทพเป็นที่รู้จักกันดีว่า “เป็นเมืองของเทพยดา”

9. Ayutthaya was the second Thai Capital from 1350 to 1767 and reigned by 33 kings before it fell to the Burmese invader.

(อยุธยา วอส เธอะ เซ็คคั่น ไทย แค็พพิทัล ฟร์อม เธอทีน-ฟิ๊ฟตี้ ทู เซเว่นทีน-ซิกตี้เซเว่น แอนด์ เรนท บาย เธอตี้-ทรี คิงส บีฟอร์ อิท เฟ็ล ทู เธอะ เบอมีส อินเวดเด่อร์)

อยุธยาเป็นเมืองหลวงที่สอของไทย จากปี ค.ศ. 1350 ถึงปี ค.ศ. 1767 และมีกษัตริย์ปกครอง 33 พระองค์ ก่อนที่จะถูกพม่าตีแตก

*คำว่า “วัด” นิยมใช้คำว่า “temple” มากกว่า

10. Sukhothai was the first Thai capital founded some 700 years ago.

Sukhothai literally meand “Dawn of Happiness”.

(สุโขทัย วอส เธอะ เฟิสท ไทย แค็พพิทัล เฟาดเด็ด ซัม เซเว่นฮันเดร็ด เยียร์ส อะโก สุโขทัย ลิททึรึลลี่ มีนส ดอน ออฟ แฮ็พพิเนส)

สุโขทัยเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของไทย จัดตั้งขึ้นเปนเวลา ประมาณ 700 ปีมาแล้ว

สุโขทัย แปลตามอักษร หมายถึง “การเริ่มต้นแห่งความสุข”

11. Temples are a sacred place to Thai Buddhists, visitors should dress and behave decently for their visit.

(เท็มพึ้ล อาร์ อะ เซคริด เพลส ทู ไทย บุ๊ดดิสท์ส วิซิซเท่อะส ซูด เดรส แอนด์ บีแฮ็ฟว ดีซึนทลี่ ฟอร์ แธร์ วิซซิท)

ชาวพุทธไทยถือว่าวัดเป็นสถานที่ศักสิทธิ์ นักท่องเที่ยวควรแต่งตัวและประพฤติตนให้เหมาะสมในขณะมาเยือน

12. Thai people regard the head as the highest part of the body. So, it’s taboo to touch a Thai on the head.

(ไทย พีเพิ้ล รีการ์ด เธอะ เฮ็ด แอส เธอะ ไฮเทค พาร์ท ออฟ เธอะ บอดี้ โช อิทส ทะบู ทูทัช อะไทย ออนเธอะ เฮ็ด)

คนไทยถือว่าศีรษะเป็นส่วนที่สูงที่สุดของร่างกาย ดังจึงห้ามจับคนไทยที่ศีรษะ

13. It is considered rude to point one’s feet at anyone.

(อิท อีส ค็อนซิเด่อร์ท รูด ทู พ้อยท วันส ฟิต แอ็ท เอ็นนี่วัน)

ถือว่าไม่สุภาพถ้าใช้เท้าชี้ไปที่ผู้ใดผู้หนึ่ง

14. When entering a Thai house, the visitor should remove his shoes and leave them at the entrance.

(เว็น เอ็นเท่อะริ่ง อะ ไทย เฮ้าส เธอะ วิซซิทเท่อะ ชูด รีมู้ฟว ฮิส ชูส แอนด์ ลีฟว เธ็ม แอ็ท ธิ

เอ็นทร้านส)

เมื่อเข้าไปยังบ้านของคนไทย ผู้มาเยือนควรจะถอดรองเท้าและทิ้งไว้ที่ทางเข้า

15. Chiang Mai is popularly known as “The Rose of the North”.

(เชียงใหม่ อีส พ็อพพิวลาลี่ โนนท แอส เธอะ โรส ออฟ เธอะ นอร์ธ)

เชียงใหม่เป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็น “กุหลาบเมืองเหนือ”

16. Kanchanaburi is the location of the infamous Death Railway constructed by Allied prisoners during World War II.

(กาญจนบุรี อิส เธอะ โลเคชั่น ออฟ ธิ อินเฟมัส เด็ธ เร็ลเวย์ ค็อนสทรัคเต็ด บาย อะไลท พริซเนอะส

ดิวริ่ง เวิลด วอ เซ็คคั่น)

กาญจนบุรีเป็นที่ตั้งของทางรถไฟมรณะหฤโหดซึ่งก่อสร้างโดยนักโทษพันธมิตรระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2

17. Hua Hin is Thailand’s oldest beach resort.

(หัวหิน อีส ไทยแลนด์ โอลเด็สท บีช รีซอร์ท)

หัวหินเป็นที่พักตากอากาศชายทะเลที่เก่าแก่ที่สุดของไทย

18. Koh Samui is Thailand’s third largest island.

(เกาะสมุย อีส ไทยแลนด์ส เธิด ล้าจเจ็สท ไอลันด)

เกาะสมุยเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดอันดับสามของไทย

19. Phuket is Thailand’s largest and finest island and is widely known as “The Peart of the South”.

(ภูเก็ต อีส ไทยแลนด์ ล้าจเจ็สท์ แอนด์ ไฟเน็สท ไอลันด แอนด์ อีส ไวดลี่ โนนท แอส “เธอะ เพิล ออฟ เธอะ เซ้าท”)

ภูเก็ตเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดและสวยงามที่สุดของไทยและเป็นที่กล่าวขานกันอย่างกว้างขวางว่าเป็น “ไข่มุกของภาคใต้”

20. Thailand is a paradise for shpping.

(ไทยแลนด์ อีส อะ พาราได้ซ ฟอร์ ช็อพพิ่ง)

ประเทศไทยเป็นสวรรค์สวรรค์สำหรับการจับจ่ายใช้สอย

21. I-Sarn or the Northeast is the most traditional part of the country.

(อี-สาน ออร์ เธอะ นอร์ธอีสท อีส เธอะ โม้สท เทร็ดดิชั่นแนล พาร์ท ออฟ เธอะ คันทรี)

อีสานเป็นศูนย์รวมประเพณีของประเทศไว้มากที่สุด

22. Pattaya is popularly known as “The Queen of Asia’s Resorts”

(พัทยา อีส พ็อพพิวลาลี่ โนนท แอส “เธอะ ควีน ออฟ เอเชียส รีซอร์ท”)

พัทยาเป็นที่กล่าวขานกันทั่วไปว่าเป็น “ราชินีแห่งเมืองตากอากาศของเอเชีย”

23. Thailand offers a wide variety of well-know tourist attractions.

(ไทยแลนด์ อ็อฟเฟ่อส อะ ไวด วะไรอะทิ ออฟ เว็ล-โนนท ทัวริสท อะแทร็คชั่นส)

ประเทศไทยมีสถานที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากมายหลายหลาก

24. Phra Pathom Chedi is the world’s tallest Buddhist monument at 127 metres.

(พระปฐมเจดีย์ อีส เธอะ เวิลดส ท็อลเล็สท บุ๊ดดิสท โมนิวเม้นท แอ็ท วันฮันเดร็ด-แอนด์-ทะเว่นตี้เซ็ฟวึน มิเต่อร์ส)

พระปฐมเจดีย์เป็นอนุสาวรีย์ทางพุทธศาสนาที่สูงที่สุดในโลกถึง 127 เมตร

25. Another popularity of Thailand is a land of tropical fruits.

(อะนัธเน่อร์ พ็อพพูลาริตี้ ออฟ ไทยแลนด์ อีส อะ แลนด์ อีส อะ แลนด์ ออฟ ทร็อพพิคัล ฟรุ้ตส)

ชื่อเสียงอีกอย่างหนึ่งของไทยก็คือเป็นดินแดนแห่งผลไม้เมืองร้อน

26. Chiang Rai is the northernmost province of Thailand.

(เชียงราย อีส เธอะ นอร์ทเทิ่นโมสท โพรวิ่นส ออฟ ไทยแลนด์)

เชียงรายเป็นจังหวัดที่อยู่เหนือสุดของประเทศไทย

27. The unique martial art of Thailand is the well-known Thai boxing or Muay Thai.

(เธอะ ยูนีค มาชึล อาร์ท ออฟ ไทยแลนด์ อีส เธอ เว็ล-โนนท ไทย บ๊อกซิ่ง ออร์ มวยไทย)

ศิลปะป้องกันตัวชิ้นเอกของประเทศไทยก็คือมวยไทยที่มีชื่อเสียง

28. Thai food is widely known for being hot and spicy.

(ไทย ฟูด อีส ไวดลี่ โนนท ฟอร์ บีอิ้ง ฮ็อท แอน สไพซิ)

อาหารไทยเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่ามีรสเผ็ด และแก่เครื่องเทศ

29. Thailand offers many superb beach resorts.

(ไทยแลนด์ อ็อฟเฟ่อร์ส เมนี่ ซิวเพิบ บีช รีสอร์ท)

ประเทศไทยมีสถานที่พักตากอากาศชายทะเลชั้นเยี่ยมอยู่มากมาย

30. Pattaya is well-known for the world famous transvestite show.

(พัทยา อีส เล็ว-โนนท ฟอร์ เธอะ เวิลด์ เฟมัส ทร็านเวิสไท้ท โชว์

พัทยามีชื่อเสียงด้านการแสดงของกระเทยที่ดังไปทั่วโลก

บทสนทนาประจำบท

A : Excuse me. Do you speak English?

B : Yes, I do.

A : Can you tell me in brief about Wat Po or Temple of the Reclining Buddha?

B : Yes, of course. Wat Po is Bangkok’s oldest and largest temple. It is also regarded as the first centre of public education. Above all, the temple houses the gigantic gold-plated Reclining Buddha which is 46 meters long and 15 meters high with beautifully inlaid mother-of pearl soles.

A : That sounds very interesting. Will you be free tomorrow ?

B : Well, tomorrow is Sunday, I’ll be free.

A : Can you take me there ?

B : Of course, I can

A : Thank you so much.

B : You’re welcome. See you tomorrow.

A : See you.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น